Juicerclub - กะหล่ำดาว 1 ใน 14 ผักต้านมะเร็ง

ชื่อสามัญ

Brusseis Sprouts

ชื่อวิทยาศาสตร์

Brassica oleracea var. gemmifera

ชื่ออื่น

Rose Cabbage

ถิ่นกำเหนิด

กะหล่ำดาวเริ่มพัฒนาสายพันธุ์และเพาะปลูกที่เมืองบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยียม

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

กะหล่ำดาวเป็นพืชล้มลุก สามารถจำแนกได้ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มปลีสีเขียวอ่อน กลุ่มปลีสีเขียว และกลุ่มปลีสีเขียวเข้ม มีลักษณะลำต้นตั้งตรง สูงประมาณ 1 เมตร ไม่แตกกิ่ง มีตาอยู่ที่มุมใบ (leaf axil)

ซึ่งจะแตกใบอ่อนออกมาและเจริญเติบโตพัฒนาไปเป็นปลีขนาดเล็ก โดยจะออกเวียนรอบลำต้นจากส่วนโคนใกล้ระดับดินไปจนถึงปลายยอด ส่วนใบจะมีลักษณะคล้ายใบของกะหล่ำดอกออกเป็นกลุ่มที่ส่วนปลายลำต้น

ฤดูกาล

กะหล่ำดาวเจริญเติบโตได้ดีในฤดูหนาว

แหล่งปลูก

ปัจจุบันสามารถเพาะปลูกได้ทางภาคเหนือของประเทศไทย เช่น บนดอยสูง ใน จ.เชียงใหม่

การกิน

กะหล่ำดาวกินได้ทั้งใบอ่อนและปลี แต่นิยมกินปลีมากกว่า จะกินสดก็ได้ โดยกินเป็นผักสลัด หรือกินสุก โดยนำมาลวกจิ้มน้ำพริก หรือใช้เป็นเครื่องเคียง หรือลวกแล้วผัดกับเนื้อสัตว์หรืออาหารทะเล หรือผัดน้ำมันหอย

แต่เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด และกินง่าย สามารถนำใบอ่อน และปลี มาคั้นแยกกากด้วยวิธีสกัดเย็น จะได้ประโยชน์สูงมาก

สรรพคุณทางยา

กะหล่ำดาวมีสารช่วยต้านมะเร็ง และมีวิตามินซีสูง ช่วยให้ผิวพรรณสดใส ทั้งยังกระตุ้นและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบภูมิคุ้มกัน

คุณค่าอาหาร

กะหล่ำดาว 100 กรัม ให้พลังงาน 27 กิโลแคลอรี่

ประกอบด้วย

โปรตีน 4.0 กรัม

ไขมัน 0.5 กรัม

คาร์โบไฮเดรต 2 กรัม

เส้นใย 4 กรัม

น้ำตาล 2 กรัม

แคลเซียม 15 มิลลิกรัม

โพแทสเซียม 380 มิลลิกรัม

***ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ ผัก 333 ชนิด คุณค่าอาหารและการกิน สำนักพิมพ์แสงแดด

สูตรแนะนำ น้ำกะหล่ำดาวคั้นแยกกากสกัดเย็น

กะหล่ำดาว 100 กรัม
สับปะรด 200 กรัม
แอปเปิ้ลเขียว 2 ลูก (ตามชอบ)
ขิง 20 กรัม หรือ ขนาดเท่าหัวแม่มือ
นำมาเข้าเครื่องคั้นแยกกากผักผลไม้ ชนิดสกัดเย็น จะได้น้ำกะหล่ำดาวง ประมาณ 400 ml.

เครื่องคั้นแยกกากกะหล่ำดาว แนะนำ