ในประเทศไทยก็มีข้อมูลว่า มีคนรับประทานน้ำคั้นจากหัวไชเท้า อาการริดสีดวงทวารที่เป็นอยู่มีอาการดีขึ้น ตั้งแต่ 1-2 อาทิตย์แรกที่ดื่มอย่างต่อเนื่อง บางคนถึงกับบอกว่ากำลังจะไปผ่าตัดเมื่อดื่มน้ำหัวไชเท้าถึงกับอาการทุเลาไม่ต้องไปผ่าตัดเลยก็มี
เรามาทำความรู้จักหัวไชเท้ากันสักนิด
หัวไชเท้า อยู่ในวงศ์เดียวกับตระกูลกะหล่ำ ภาษาอังกฤษเรียกว่า DAIKON มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน และประเทศญี่ปุ่น เราจึงไม่แปลกใจเลยว่าเมื่อเราไปทานอาหารญี่ปุ่นมักจะมีเครื่องเคียงที่เป็นหัวไชเท้าอยู่ด้วยเสมอ ๆ
สารอาหารที่สำคัญ 4 อันดับที่มีมากในหัวไชเท้า 100 กรัม (ร้อยละคุณค่าทางโภชนาการที่ควรได้รับต่อวัน)
- อันดับ 1 วิตามินซี 68%
- อันดับ 2 โฟเลต (วิตามิน B9) 10%
- อันดับ 3 โพแทสเซียม 50%
- อันดับ 4 ทองแดง 62%
นอกจากนี้ยังมีสารอื่น ๆ อีก เช่น แมกนีเซียม แคลเซียม คาร์โบไฮเดรต ไฟเบอร์ และ โปรตีน ฯ
หลายคนคงอยากรู้ว่าทำไมการรับประทานหัวไชเท้าถึงช่วยเรื่องริดสีดวงทวาร
มีผลการวิจัยที่อาจจะเทียบเคียงได้ก็คือ มีการทดลองในหนูโดยใช้สารสกัดเมล็ดหัวไชเท้า พบว่าช่วยบรรเทาและป้องกันอาการลำไส้อักเสบเรื้อรังได้ ได้ผลดีทั้งอาการที่เกิดจาก ปฎิกริยาออกซิเดชั่น และกระบวนการอักเสบ ในลำไส้ ฤทธิ์ป้องกันความเสียหายของลำไส้ได้ดีใกล้เคียงกับยาเมซาลาซีน ซึ่งเป็นยารักษาโรคลำไส้อักเสบลดอาการบวมในลำไส้ใหญ่ เช่น ถ่ายเป็นเลือด เลยทีเดียว
สอดคล้องกับตำราจีน หัวไชเท้าเป็นยาเย็น แต่มีฤทธิ์เผ็ดร้อน มีประโยชน์อย่างมากต่อการทำงานของปอด กระเพาะ ลำไส้ใหญ่ ช่วยอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก ยังมีการศึกษาในต่างประเทศอีกหลายงานวิจัย เช่น สารที่ได้จากสารสกัดหัวไชเท้า มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียบางชนิดอีกด้วย
สรรคุณทั่ว ๆ ไปของหัวไชเท้า
- เนื่องจากมีวิตามินซีสูง ช่วยในเรื่องการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน การเจริญเติบโตและการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ทำให้มีสุขภาพผิวที่ดี ช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรง ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพถึง 2 เท่า ปกป้องเซลล์ร่างกายของจากการทำลายของอนุมูลอิสระ
- โฟเลต วิตามินบี 9 ที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของเซลล์ การผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง และการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ ความสำคัญอย่างยิ่งในระหว่างตั้งครรภ์ เนื่องจากสารอาหารนี้มีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารก
- โพแทสเซียม และแคลเซียม ช่วยลดความดันโลหิตสูงและลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ หัวไชเท้ายังเป็นแหล่งไนเตรตธรรมชาติที่ดีที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
- เนื่องจากอยู่ในวงศ์ของกะหล่ำ หัวไชเท้าอาจช่วยป้องกันมะเร็งได้ ตามที่สถาบัน Linus Pauling ผักตระกูลกะหล่ำมีสารประกอบที่แตกตัวเป็นไอโซไทโอไซยาเนตเมื่อรวมกับน้ำ ไอโซไทโอไซยาเนตช่วยล้างร่างกายของสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งและป้องกันการพัฒนาของเนื้องอก
วิธีเตรียมหัวไชเท้าสกัดเย็น
- นำหัวไชเท้ามาล้างผ่านน้ำโดยใช้แปรงถูเบา ๆ บริเวณผิว ประมาณ 2 นาที เพื่อให้สิ่งแปลกปลอมลดลง
- ตัดส่วนหัว-ท้าย ออก และปลอกเปลือก
- หั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ เพื่อสะดวกในการนำไปเข้าเครื่องแยกกากสกัดเย็น
สูตรน้ำหัวไชเท้าสกัดเย็น
- หัวไชท้าว ปริมาณ 100 กรัม เมื่อสกัดออกมาจะได้น้ำ ประมาณ 50-60 ซีซี
- แอปเปิ้ลเขียวเบอร์ #112 จำนวน 2 ลูก (ผสมเพื่อใช้รสชาติดีขึ้น แต่ถ้าใครดื่มได้ก็ไม่ต้องผสม) เมื่อสกัดออกมาจะได้น้ำ ประมาณ 200 ซีซี
วิธีทำน้ำหัวไชเท้าสกัดเย็น
สกัดทั้งสองชนิดผสมลงไปในเครื่องสกัดเย็นก็ได้ ถ้าใช้วิธีนี้ให้ใส่สลับ ๆ กัน ระหว่าง หัวไชเท้า กับ แอปเปิ้ลเขียว หรือจะแยกสกัดชนิดใดชนิดหนึ่งก่อน แต่แนะนำว่าให้สกัดหัวไชเท้าจนหมด แล้วตามด้วยแอปเปิ้ลเขียว เครื่องสกัดจะลำเลียงกากออกมาได้ดีกว่า เพราะแอปเปิ้ลเขียวมีเปลือกที่เส้นใยจะช่วยดันกากของหัวไชเท้าได้ดี
ข้อแนะนำในการดื่ม
เมื่อได้น้ำสกัดหัวไชเท้าแล้วควรดื่มทันทีจนหมด หากยังไม่ดื่มให้ใส่ขวดแก้ว และแช่เก็บไว้ในตู้เย็น ควรดื่มให้หมดภายใน 72 ชั่วโมง หรือ ดื่มให้หมดให้เร็วที่สุด เพราะวิตามิน และเอนไซม์ จะสูญสลายลงไปเรื่อย ๆ
ข้อควรระวัง
- ไม่ควรดื่มในปริมาณที่มากเกินไป เพราะ จะทำให้แสบท้อง หรือ มีอาการผิดปกติได้
- ในครั้งแรกควรดื่มในปริมาณที่น้อย ๆ ก่อน ประมาณ 2-3 วัน หลังจากนั้นค่อย ๆ เพิ่มปริมาณ แต่อย่าให้เกิน 100 ซีซีต่อวัน
- ถ้าพบอาการผิดปกติ หรือ แพ้ให้หยุดื่มทันที ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ในบางคนแต่พบในปริมาณที่น้อยมาก
- สำหรับผู้ที่เป็นไทรอยด์ ไม่ควรดื่ม เพราะสารในหัวไชเท้าจะไปขัดขวางการสร้างฮอร์โมนไทรอกซิน จะทำให้เกิดโรคคอหอยพอกได้
สรุป
สรรพคุณของน้ำสกัดหัวไขเท้าน่าจะมีส่วนช่วยในเรื่องของริดสีดวงทวารได้ไม่มากก็น้อย ใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ทดลองทำทานเป็นประจำได้เลยครับ แต่ถ้าจะให้ได้ผลดีควรงดของสแลง เช่น ของหมักดอก ต่าง ๆ โดยเฉพาะประเภทหน่อไม้ หันมาทางผักผลไม้ให้มากขึ้น ลดเนื้อสัตว์ให้น้อยลง ยกเว้น เนื้อปลาทานได้ จะทำให้อาการต่าง ๆ ดีขึ้นอย่างแน่นอน ลองดูวิธีการทำน้ำหัวไชเท้าสกัดเย็นได้ตามคลิปด้านล่างครับ (ใครที่ไม่มีเครื่องแยกกากสกัดเย็นก็ใช้วิธีการปั่น หรือ ตำ แล้วบีบน้ำออกมาดื่มก็ได้
ติดต่อเรา
Facebook : Juicer Club
Line : @juicerclub
Phone : 02-454-1465